“ฝากเงิน” ตู้อัตโนมัติ ต้องใช้บัตรเดบิต-เครดิตยืนยันตัวตน ตั้งแต่ 15 พฤศจิกายน 2565 เป็นต้นไป ล่าสุด แบงก์ชาติ ให้เลื่อนออกไปก่อนเพื่อหาวิธีที่เหมาะสม
หลังเกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างดุเดือด ทำให้ล่าสุดทางด้าน ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้เผยให้เลื่อนการบังคับใช้ออกไปก่อน สำหรับการฝากเงินผ่านตู้อัตโนมัติที่ต้องใช้บัตรเดบิตและบัตรเครดิตยืนยันตัวตน ในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2565 เป็นต้นไป
สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ ธนาคารจะมีการปรับขั้นตอนการฝากเงินผ่านเครื่อง CDM (เครื่องฝากเงินสดอัตโนมัติ) ซึ่งต้องมีการยืนยันตัวตนผ่านบัตรเดบิต บัตรเอทีเอ็มหรือบัตรเครดิต ทุกครั้ง โดยจะเริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน 2565 เป็นต้นไป โดยเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย ของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ทำให้ลูกค้าที่ไม่มีบัตรไม่สามารถใช้บริการได้นั้น
ล่าสุดวันนี้ (27 ตุลาคม 2565) ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า เป็นเรื่องของกฎหมาย ปปง. ซึ่งธปท.เข้าใจในสิ่งที่ปปง. ทำ โดยหน้าที่ของ ธปท. คือ ทำงานร่วมกับหน่วยงานภายใต้การกำกับ สมาคมธนาคารไทย หาวิธีอื่นมารองรับเพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบ
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะใช้รูปแบบใดแทนการเสียบบัตรเดบิตหรือบัตรเครดิต ยืนยันตัวตนเพื่อฝาก เงินที่ตู้ CDM ทำให้ได้หารือกับ ปปง. และสรุปว่าให้เลื่อนมีผลบังคับใช้ออกไปก่อน ภาระประชาชนจึงยังไม่เกิดขึ้น
ส่วนวิธีที่มีข้อเสนอคือ การใช้บัตรประชาชนในการยืนยันตัวตนที่ตู้ CDM แทนการใช้บัตรเดบิต หรือบัตรเครดิต เนื่องจากทุกคนมีบัตรประชาชนอยู่แล้ว แต่การใช้บัตรประชาชนยังมีเรื่องความเสี่ยงหากบัตรหาย และต้องเปลี่ยนระบบที่ตู้ CDM ส่งผลให้ต้นทุนธนาคารสูงขึ้น จึงอาจส่งผ่านไปประชาชนไม่ทางตรงก็ทางอ้อม ซึ่งอาจไม่ใช่วิธีที่เหมาะสมที่สุดและตอบโจทย์ดีที่สุด
นอกจากนี้อาจจะมีวิธีอื่น เช่น ใช้โมบายแบงก์กิ้ง แอปพลิเคชั่นธนาคาร หรือคีย์เลขบัตรประชาชน และอาจมีการยืนยันด้วย OTP กลับมา ซึ่งสุดท้ายต้องหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาทางออกในเรื่องนี้ก่อน
ข้อมูล : Top News Online